อนุสาวรีย์พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกน
11 มิ.ย. 2568
รายละเอียด:
พญาสามฝั่งแกน หรือ “สามประหญาฝั่งแกน” หรือ “พระเจ้าสาม ปรายงค์แม่ใน” หรือ “เจ้าดิสกุมาร”กษัตริย์ล้านนาในราชวงศ์มังราย ผู้ ครองนครเชียงใหม่ โอรสของพญาแสนเมืองมา และได้สถาปนาพระราช มารดาไว้ในที่สมเด็จพระชนนีพันปีหลวง พระมหาเทวีโลกะ-จุกราชเทวี ในฐานะผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ ที่มาของพระนามพญาสามฝั่ง แกน ทรงได้รับการตั้งพระนามตามสถานที่ประสูติ ในปัจจุบันสันนิษฐาน ว่าอยู่ที่ต าบลอินทขิล อ าเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบริเวณเมือง เก่านี้มีแม่น้ าสามสาย ได้แก่ 1.แม่น้ าแกน 2.แม่น้ าปิง และ 3.แม่น้ าสงัด หรืองัด เพราะเหตุที่ประสูติ ณ พันนาฝั่งแกน จึงได้ชื่อว่า “เจ้าสามฝั่งแกน” ต านานเชียงใหม่ได้กล่าวสรรเสริญพระเกียรติของพระองค์ว่า มีสติปัญญาสามารถองอาจกล้า หาญ จัดการรักษาบ้านเมืองในเวลาศึกสงครามดีมาก ทั้งสงคราม ป้องกันการรุกรานของฮ่อและศึก สงครามกับกรุงสุโขทัยในด้านศาสนาได้มีการสถาปนานิกายลังกาวงศ์ขึ้นใหม่ หลังจากส่งพระมหา เถระจากเชียงใหม่ 25 องค์ เดินทางไปศึกษาที่วัดถูปาราม นครอนุราธปุระในลังกา เมื่อปี พ.ศ. 1967 โดยกลับมาจ าพรรษาที่วัดป่าแดงมหาวิหาร และที่วัดป่าแดงนี้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระ บรมศพพญาสามฝั่งแกน โดยพระเจ้าติโลกราชโปรดให้สถาปนาพระสถูปบรรจุอัฐิธาตุพระราชบิดาไว้ ด้วย ซึ่งนอกจากนี้สมัยพญาสามฝั่งแกนได้มีการสร้างวัดเจดีย์หลวงต่อจากพญาแสนเมืองมา พระราช บิดา โดยมีพระมหาเทวี พระราชมารดาเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง สืบเนื่องจากพญาสามฝั่งแกนยังทรง พระเยาว์อยู่ ซึ่งในช่วงการก่อสร้างพระเจดีย์หลวงนั้นพระองค์ทรงรับสั่งให้เจาะก าแพงเมืองเป็นประตู เมือง เรียกว่าประตูสวนแร ต่อมาเปลี่ยนเป็นประตูสวนปุง หรือ สวนปรุง (คือแทงพุง) เนื่องจากได้น าพวกกบฏมาประหารโดย ใช้หอกหรือหลาวแทงพุงการเจาะประตูสวนปรุงนี้เพื่อให้พระ ราชมาดาที่ทรงประทับต าหนักสวนแร ตั้งอยู่นอกเวียงทางทิศใต้นอกเขตกำแพงเมือง นอกจากนี้พระองค์เป็นผู้อัญเชิญพระแก้วมรกต(พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร)มาจากเชียงรายซึ่งในระหว่างทาง หมื่นโลก พระนคร พระ ญาติซึ่งเป็นเจ้าเมืองล าปางก็ทูลขอพระแก้วไว้ที่เมืองล าปาง ต่อมาพระเจ้าติโลกราชพระราชโอรส ได้ อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่เชียงใหม่ พระเจ้าสามฝั่งแกนโปรดให้สร้างวัดใหญ่ในต าบลพันนาฝั่งแกนขนานนามว่า “วัดพึง” หรือ “วัดบุรณฉันท์” ในชิลกาลมาลินีในภาษาบาวี ค าว่า “ปุรจฺฉนฺน” แยกศัพท์ได้คือ “ปุร” แปลว่า “เมือง” ส่วน “ฉนฺน” แปลว่า “มุง” ในปัจจุบันคือวัดศรีมุงเมือง อยู่ที่ต าบลลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และยังได้สถาปนาเวียงเจ็ดลินขึ้นเพื่อใช้เป็นวัตถุประสงค์ในการเป็นป้อมปราการป้องกัน ข้าศึกที่จะมารุกรานเชียงใหม่ รวมทั้งใช้เป็นพระราชวังในการแปรราชฐานของเจ้าผู้ครองนคร เชียงใหม่อีกด้วย เพื่อเป็นการร าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระเกียรติยศแห่งองค์พระเจ้าสามฝั่งแกน พสกนิกรในทุ่งพันแอกพันเฝือพันนาฝั่งแกน จึงได้รวบรวมพลังแห่งจิตศรัทธา ร่วมกันจัดพิธีเททอง หล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่านไปเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๓ และได้อัญเชิญ พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกน ขึ้นประดิษฐานบนแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ ในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ หรือวัน “พญาวัน” ตามปฏิทินของชาวล้านนา พร้อมกันนี้ได้ก าหนดให้มี พิธีวางศิลาฤกษ์เสาอินทขิลเมืองแกน ในวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ และถือให้เป็นวันบวงสรวง พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกนของทุกป
รูปภาพ
ไฟล์เอกสาร